Content

กระเป๋าหนังแท้ VS กระเป๋าหนังเทียม ต่างกันอย่างไร

กระเป๋าหนัง

เคยไหม? เมื่ออยากได้ กระเป๋าหนังแท้สักหนึ่งใบ แต่ไม่แน่ใจว่า กระเป๋าหนัง ที่เลือกนั้น เป็นหนังแท้หรือหนังเทียมกันแน่ วันนี้ Suvino เลยจะมาแนะนำวิธีการดูหนังแท้กับหนังเทียมให้คุณได้รู้ เพื่อให้คุณสามารถแยกได้ว่า กระเป๋าที่กำลังจะซื้อเป็นหนังแท้หรือหนังเทียม

3 วิธีการดูหนังแท้กับหนังเทียมแบบง่ายๆ

  1. ต้องสัมผัสผิวของกระเป๋า: ใช้นิ้วมือ หรือฝ่ามือลูบไปบนผิวหนัง หากเป็นหนังแท้ จะรู้สึกถึงความไม่เรียบเนียนตามธรรมชาติ สามารถมั่นใจได้ว่าหนังที่สัมผัสคือ หนังแท้ ส่วนหนังเทียมจะเรียบลื่น หากพับหนังแท้จะเป็นรอยพับ และเมื่อปล่อยรอยพับจะยังคงอยู่ แต่ถ้าเป็นหนังเทียมรอยยังคงอยู่นั่นเอง และเมื่อสังเกตผิวของหนังใกล้ๆ หนังแท้จะมีความไม่สม่ำเสมอของรูขุมขนบนพื้นผิวของหนัง ส่วนหนังเทียมจะมีรูขุมขนบนผิวของหนังที่สม่ำเสมอเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งใบ อีกทั้งขอบของหนังเทียมจะมีลักษณะเหมือนก้อนพลาสติกไหม้ แข็ง และคมไม่ละมุนมือ แต่ขอบของหนังแท้จะเรียบเนียนเป็นขุยเล็กน้อย ตามแบบฉบับของหนังแท้ 
  2. ลองดมกลิ่น: หนังแท้จะมีกลิ่นของหนังค่อนข้างแรงจนบางครั้งต้องตั้งทิ้งไว้ให้กลิ่นจางลงถึงค่อยนำมาใช้ แต่ถ้าเป็นหนังเทียมจะมีกลิ่นของทินเนอร์ กาว หรือพลาสติกมากกว่า 
  3. ทดสอบด้วยการลนด้วยไฟ: วิธีนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมสักเท่าไหร่นัก เพราะอาจจะสร้างความเสียหายให้กับหนังได้ แต่กระเป๋าหนังแท้ส่วนใหญ่จะมีแท็กกระเป๋ามาให้ด้วย ซึ่งคุณสามารถทดสอบกับแท็กนั้นได้ และถ้าเป็นหนังแท้จะติดไฟค่อนข้างยาก ไฟไม่ลาม แต่ถ้าเป็นหนังเทียมจะติดไฟเร็วมาก เป็นไฟขนาดใหญ่ และลามอย่างรวดเร็ว แถมยังมีกลิ่นเหม็นเหมือนพลาสติกไหม้อีกด้วย

หนังแท้ และ หนังเทียม มีกี่ประเภทอะไรบ้าง

เมื่อได้ทราบถึงวิธีการดูหนังแท้และหนังเทียมกันไปแล้ว ต่อมาทาง Suvino จะพาไปทำความรู้จักกับหนังแท้และหนังเทียมแต่ละประเภท เพื่อเป็นทางเลือกในการเลือกใช้หนังแท้และหนังเทียม

หนังแท้มีทั้งหมด 4 ประเภทโดยปกติแล้วหนังแท้ที่นิยมนำมาผลิตเป็นกระเป๋าหนังในประเทศไทยมักจะใช้หนังอยู่เพียงไม่กี่ชนิด โดยแบ่งเป็นประเภทได้ตามนี้

  1. หนัง Full grain เป็นหนังชั้นแรกมีลวดลายของหนังสัตว์ธรรมชาติอยู่ หลังจากผ่านกระบวนการฟอกหนังแล้ว จะมาทำการแต่งโดยการพ่นเงา เน้นลวดลายของตัวหนังเองขึ้นมา หนังประเภทนี้เหมาะสำหรับนำไปผลิตเป็นหนังหน้าของผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง 
  2. หนัง Split เป็นหนังที่อยู่ชั้นกลาง ซึ่งโครงสร้างของเนื้อหนังยังคงมีโครงสร้างที่ดี จึงนำไปผลิตเป็นหนัง Nubuck หรือ Suede และยังสามารถนำไปโค๊ตพียูเพื่อสร้างลวดลายเทียมขึ้นได้ เหมาะสำหรับนำไปใช้เป็นหนังหน้าในการผลิตเครื่องหนัง 
  3. หนัง lining คือหนังชั้นสุดท้าย โครงสร้างไม่เหมาะสำหรับนำไปทำหนังหน้า ส่วนใหญ่จะถูกนำไปทำซับในในผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง 
  4. หนัง bonded leather คือเศษหนังที่ถูกกักไว้ในขั้นตอนการตัดหนัง Full grain, Split และ Lining นำไปผสมกับกาวและนำมาทำเป็นม้วนหรือแผ่น หลังจากนั้นก็ผ่านการโค๊ตด้วยพียู สามารถนำไปใช้ในทุกส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง 

ส่วนหนังเทียมมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทด้วยเช่นกันคือ หนังพียู หนังเซมิพียู และหนังพีวีซี แต่ที่โดดเด่นของหนังเทียมที่เป็นที่นิยมและโดดเด่นที่สุดคือ “หนังเทียมพียู” ซึ่งหนังเทียมประเภทพียู มีขั้นตอนการผลิตที่สะอาด ไร้มลพิษตกค้างในผลิตภัณฑ์ จึงทำให้ของเล่นเด็กที่ขายกันในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วเช่น ประเทศทางยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกา ฯลฯ มักจะใช้พลาสติกประเภทพียูเป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งหนังเทียมพียูจะมีราคาสูงและมีอายุการใช้งานน้อย สามารถเสื่อมและย่อยสลายไปเอง

ทั้งหมดนี้คือเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ วิธีการดูหนังแท้กับหนังเทียม และประเภทของหนังแท้และหนังเทียม ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ ผู้ที่ชื่นชอบกระเป๋าหนังสามารถนำไปปรับใช้กันได้เลย และสำหรับใครที่สนใจอยากผลิตกระเป๋าหนังแท้ สามารถติดต่อสอบถามมาทาง Suvino ได้เช่นกัน เพราะเราพร้อมให้คำตอบเกี่ยวกับหนังแท้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น หนังวัว, หนังงู, หนังจระเข้ ฯลฯ ซึ่งหนังแต่ละชนิดที่นำมาทำกระเป๋านั้นเรานำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด
……………………………………………………………………………………………………………………
“The finest handcrafted leather goods in Thailand” – Suvino
เรามีหนังให้เลือกมากที่สุดในประเทศไทย ความปราณีตและความเชี่ยวชาญ สะท้อนได้จากประสบการณ์กว่า 36 ปีของ Suvino
.
Address: 1 Moo 3, Tambol Lak6 , Amphur Muang , Pathumthani 12000 , Thailand https://goo.gl/maps/VLvXegPSNEeSacGo9
.
Tel: 0925969559, 025363542-3
Email: [email protected]
Facebook: www.facebook.com/suvinocorp
IG: https://www.instagram.com/suvino_bagfactory/
Inbox: https://m.me/suvinocorp

Related Posts